บูกาโย่ ซาก้า ปีกตัวจี๊ดแห่ง อาร์เซน่อล เปิดเผยว่าตนเล่นด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอเวลา ด้วยเหตุว่าทราบดีว่าถึงจะทำพลาดแต่แฟนบอลก็ยังหนุนหลังเสมอ พร้อมยกให้ประตูลูกล่าสุดซึ่งยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นประตูที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซาก้า ออกสตาร์ตตัวจริงช่วย “ปืนใหญ่” ทำศึก พรีเมียร์ ลีก เปิดบ้านรับ “ปีศาจแดง”
ช่วงนาทีที่ 53 ระหว่างเกมยังเสมอ 1-1 นั้นซาก้าลากเลื้่อยจากริมเส้นฝั่งขวา โยกหลอก คริสเตียน อีริคเซ่น ตัดเข้าซ้ายแล้วตะบันจากระยะเกือบ 30 หลาส่งบอลเสียบเสาไกลอย่างเฉียบคม
แม้หลังจากนั้นราว 5 นาที ลิซานโดร มาร์ติเนซ จะโขกตีเสมอให้ ยูไนเต็ด แต่ท้ายเกม เอ็ดดี้ เอ็นเคเตียห์ ชาร์จจ่อๆให้ทีมของ อาร์เตต้า เอาชนะไปแบบสุดสนุก 3-2
ซาก้าผู้ที่ทำไปแล้ว 31 ประตูจากการลงเล่นชุดใหญ่ให้ อาร์เซน่อล 157 นัด ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับสื่อทางการสโมสร กล่าวเปิดเปิดเผยความรู้สึก
“แน่นอนเลยว่านั่นคือประตูที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำได้ ผมไม่มีความคิดว่าจะมีประตูไหนเทียบประตูนี้ได้ ไหนจะเรื่องความสำคัญของประตูนี้ด้วย”
“ผมไม่สามารถชี้แจงความรู้สึกออกมาเป็นคำกล่าวได้ เราเข้าใจกันดีอยู่แล้วอยู่แล้วว่าเกมนี้สำคัญเพียงแค่ไหน อีกทั้งเรื่องตารางคะแนนและก็ประวัติศาสตร์ของทั้งสองสโมสร”
“สุดท้ายพวกเราคว้าแชมป์ได้ และคุณสามารถเห็นได้จากการเฉลิมฉลองของพวกเราว่ามันมีความหมายแค่ไหน”
“ผมมีความคิดว่าวันนี้พวกเราแสดงให้มีความคิดเห็นว่าพวกเราสามารถเล่นในอีกระดับได้ เราสามารถต่อกรเมื่อเจอความบีบคั้น และก็ผมรู้สึกว่าเกมนี้เราโดนขึ้นนำเร็วที่สุดในฤดูกาลนี้
“แต่พวกเราต่อสู้กลับมา และก็สู่ต่อไปจนถึงนาทีสุดท้าย แล้วก็เราได้ประตูชัยจาก เอ็ดดี้ ซึ่งผมมีความสุขแทนเขามาก”
“บรรยากาศใน เอมิเรตส์ นั้นน่าเหลือเชื่อ ผมตั้งตารอรอที่จะได้ลงเล่นที่นี่เสมอ รวมทั้งผมเล่นแบบมีรอยยิ้มอยู่ตลอด เพราะเหตุว่าผมรู้ดีว่าถึงแม้พวกเราจะทำพลาด หรือถึงแม้พวกเราจะโดนนำ แต่แฟนบอลก็ยังจะหนุนหลังพวกเราแบบที่พวกเขาทำในวันนี้”
“แน่นอนเลยว่าผมกำลังเล่นด้วยความมั่นใจอย่างมาก ผมกำลังเล่นพร้อมรอยยิ้มและก็มีอิสระ แถมทุกคนรอบตัวผมก็กำลังเล่นได้ดีเช่นกัน ผมมีความสุขกับทุกนัดที่ได้ลงเล่นในทีมนี้”
เกมลีคสามนัดหลังสุดที่ ซาก้าลงเจอ ยูไนเต็ด เขาทำประตูได้ทุกหน ซึ่งเป็นสถิติเทียบตำนานสโมสรอย่าง เธียร์รี่ อองรี และ เฟร็ดดี้ ยุงเบิร์ก
“ว่าไง เฟร็ดดี้, ว่าไง เธียร์รี่” ซาก้ายิงมุขหลังผู้รายงานข่าวแจ้งเรื่องนี้
“ผมรู้สึกมีความสุข ผมแทบยิงลูกสองได้แล้ว แต่ผมเพียงแค่ดีใจที่ยิงลูกแรกได้ เพราะนั่นสร้างความมั่นใจให้ผมพยายามยิงประตูถัดไป”
ประวัติ บูกาโย่ ซาก้า เพชรเม็ดงามรวมทั้งอนาคตของ อาร์เซน่อล
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ขึ้นชื่อโด่งดัง เรื่องการปั้นนักฟุตบอลจากอะคาเดมี่ได้อย่างดีเยี่ยมที่สุด ซึ่งในขุมกำลังชุดเดี๋ยวนี้นั้น บูกาโย่ ซาก้าปีกดีกรีทีมชาติอังกฤษคือตัวอย่างที่ดีถึงเรื่องนั้น
ข้อมูลส่วนตัว บูกาโย่ ซาก้า
ชื่อจริง : บูกาโย่ อโยยินก้า ซาก้า(Bukayo Ayoyinka T. M. Saka)
เกิด : 5 ก.ย. 2001 เมืองอายลิ่ง ประเทศอังกฤษ
อายุ : 21 ปี
ความสูง : 178 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : ปีก, แบ็กซ้าย, กองกลาง
เส้นทางลูกหนัง
กรีนฟอร์ด เซลติก คือทีมฟุตบอลทีมแรกในชีวิตของ ซาก้าโดยมันเป็นทีมเล็กๆในย่านท้องถิ่นที่เขาอาศัยอยู่ แต่เขาก็ทำผลงานได้น่าประทับใจจนไปเข้าตาแมวดูของ วัตฟอร์ด ก่อนที่เขาจะไปเข้าอะคาเดมี่ของที่นั่น
อย่างไรก็ตาม ในปี 2008 เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของ ซาก้าหลังจาก อาร์เซน่อล แสดงความต้องการที่จะดึงตัวเขาไปเจียระไนฝีเท้า ซึ่งทางซาก้า แสดงท่าทีต้องการย้ายไปอยู่กับ “ปืนใหญ่” แทบทันทีเพราะเขาเป็นแฟนบอลของ อาร์เซน่อล อยู่แล้ว ซึ่งต้นตอมาจากการที่คุณพ่อคุณแม่ของซาก้า เป็นสาวก “ไอ้ปืนใหญ่” นั่นเอง
ซาก้าพัฒนาฝีเท้าได้อย่างโดดเด่นใต้ชายคาศูนย์ฝึกของ อาร์เซน่อล ทำให้เขาได้รับสัญญาฉบับอาชีพในตอนที่มีอายุเพียงแต่ 17 ปี แล้วก็พอถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2018 เขาได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ หลังโดนเปลี่ยนตัวลงสนามในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดที่ต้นสังกัดเจอกับ วอร์สกล้า โพลตาว่า
วันที่ 1 มกราคม ปี 2019 ซาก้าได้รับของขวัญปีใหม่แบบสุดดีเลิศ นั่นคือการได้ลงเล่นเกมระะดับ พรีเมียร์ลีก เป็นนัดแรก โดยวันนั้นเขาถูกส่งลงไปแทน อเล็กซ์ อิโวบี้ ในนาทีที่ 83 ก่อนที่ อาร์เซน่อล จะชนะไป 4-1 โดยเขานับว่าเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดในศตวรรษที่ 21 ที่ได้ลงเล่นเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ด้วย ซึ่งสุดท้ายในฤดูกาล 2018-19 เขาก็ได้ลงเล่นไป 4 นัดในทุกรายการ แต่ยังไม่มีประตูติดตัว
หลังจากฉายแววเด่นได้แล้วนั้น ซาก้าได้รับโอกาสลงเล่นบ่อยครั้งขึ้นในฤดูกาล 2019-20 ซึ่งในวันที่ 19 กันยายน 2019 เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ด้วย โดยเกิดขึ้นในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 3-0 แถมวันนั้นเขายังทำไป 2 แอสซิสต์อีกต่างหาก
ในช่วงหนึ่งของฤดูกาลดังกล่าว ซาก้าต้องถูกจับโยกไปเป็นแบ็กซ้ายขัดตาทัพ แต่เขายังช่วยทีมได้ดีในระดับหนึ่งจนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 เขาได้รับสัญญาฉบับใหม่กับทีม รวมทั้งในวันที่ 1 เดือนสิงหาคมปีเดียวกันเขามีชื่ออยู่ในทัพ อาร์เซน่อล นัดที่ชนะ เชลซี 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ เช่นกัน
เพียงแค่แต่วันนั้นเขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งานถึงกระนั้น ในซีซั่น 2019-20 ซาก้าได้รับการโหวตเข้ามาเป็นอันดับ 3 สำหรับรางวัลนักเตะเยี่ยมยอดประจำฤดูกาลของ อาร์เซน่อล เลย
ฟอร์มที่ดีที่สุดจากซีซั่นก่อนทำให้ ซาก้ากลายเป็นความหวังใหม่ในสายตาแฟนบอล อาร์เซน่อล และในฤดูกาล 2020-21 เขาได้แชมป์กับทีมอย่างรวดเร็ว นั่นคือแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก่อนที่หลังจากนั้นจะทำผลงานที่ดีเลิศได้อีกหลายนัดจนถึงทำให้ในซีซั่นนั้นเขาได้ลงเล่นไป 46 นัดในทุกรายการ และก็ทำได้ 7 ลูก
ผลงานที่ดีเลิศทำให้ ซาก้าถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020-21 ของ พีเอฟเอ ด้วย แต่สุดท้ายแพ้ ฟิล โฟเด้น ดาวเตะจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกระนั้น เขาได้รางวัลนักฟุตบอลดีเยี่ยมที่สุดประจำฤดูกาลของทาง อาร์เซน่อล ไปครอง
ซีซั่น 2021-22 ซาก้ายกระดับการเล่นของตนเองไปอีกขั้นจนถึงเกือบจะกลายเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้ โดยหากแม้ในฤดูกาลนั้น อาร์เซน่อล จะไม่ได้แชมป์ติดมือ แถมในลีกยังได้เพียงแค่อันดับ 5 แต่ซาก้า ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมจากทุกรายการ ด้วยผลงาน 12 ลูกจากการลงเล่น 43 นัด
ดังนี้ซาก้า ยังสามารถรักษาฟอร์มเก่งของตนเองเอาไว้ได้ในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งเขาจัดว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงของลีกก่อนต้องเบรกให้ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2022
ผลงานทีมชาติ
ที่จริงแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ของซาก้า เป็นคนไนจีเรีย แต่พวกเขาย้ายมาอยู่ในอังกฤษก่อนที่จะให้กำเนิดซาก้า ซึ่งหมายความว่าซาก้า เลือกเล่นให้กับทีมชาติไนจีเรียได้เช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะเล่นให้ อังกฤษ โดยเขาติดทีมเยาวชนมาหลายรุ่น ทั่งรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี, 17 ปี, 18 ปี, 19 ปี และ 21 ปี
วันที่ 1 ตุลาคม ปี 2020 ซาก้าถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และได้ประเดิมสนามกับทีมในเกมที่ชนะ เวลส์ ส่วนในศึก ยูโร 2020 เขามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษสำหรับการไล่ล่าแชมป์รายการนั้นด้วย ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานได้น่าทึ่งมากๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนจบในศึก ยูโร 2020 มันไม่ได้สวยหรูราวกับที่ซาก้า รวมทั้งคอบอล อังกฤษหลายคนคาดหวัง จากการที่พวกเขาแพ้ อิตาลี ในช่วงดวลจุดโทษ โดยที่ซาก้า เป็นหนึ่งในคนที่ยิงไม่เข้าด้วย
เหตุการณ์ในตอนนั้นทำให้ซาก้า โดนแฟนบอลอังกฤษหลายคนรุมวิจารณ์อย่างหนัก แถมบางรายยังเลยเกิดจนถึงขั้นเหยียดผิวซาก้า อีกต่างหาก ถึงกระนั้นซาก้า ยังไม่ท้อแล้วก็เลือกเล่นให้ อังกฤษต่อ ซึ่งตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในความหวังหลักของทัพ”สิงโตขู่คำราม” ในการลุยฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์
เกียรติประวัติ
อาร์เซน่อล
เอฟเอ คัพ : 2019-20
คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2020